มารยาทในการท่องเที่ยว
ในการเดินทางท่องเที่ยวนั้นถึงวัตถุประสงค์จะเป็นการปล่อยใจสบายๆ แต่ท่านอาจจะต้องเดินทางท่องเที่ยวไปกับคนอื่นๆ ที่ไม่สนิท หรือไม่รู้จักเลยในกรณีที่ไปทัวร์ ดังนั้น ท่านจึงจำเป็นจะต้องฝึกและเตือนเพื่อฝูงในเรื่องของการรักษามารยาทในการเดินทางและอยู่ด้วยกัน
มารยาทในการเดินทางนั้นไม่ได้ทำให้ท่านเครียดหรือเกร็ง หรือหมด ความสนุกแต่อย่างใด หากแต่ช่วยให้เกิดความสนุกมากขึ้น เพราะเป็นการหลีกเลี่ยงการสร้างบรรยากาศที่ลดความสนุก และเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ได้อีกด้วย ทำ ให้การเดินทางมีสมรรถภาพขึ้น และทุกคนจะได้ความสุขเต็มที่ โดยไม่มาหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ ที่ท่านนึกว่าเล็ก แต่สำหรับคนอื่นเขาถือ ดังนี้เป็นต้น
1. การตรงต่อเวลา เรื่องนี้ต้องขอบอกเลย ท่านจะต้องมีนาฬิกาที่ตั้งง่ายดูชัดทั้งกลางวันกลางคืน และก็พยายามสร้างอุปนิสัยให้เป็นคนตรงต่อเวลา และสามารถกะเวลาถูกเมื่อ จะเดินเที่ยวตอนรถหยุดพัก และท่านอย่าลืมบวกเวลาเที่ยวกลับด้วย เช่น ถ้ารถจอดครึ่งชั่วโมงการเดินทางเที่ยวไปและกลับ 15 นาที ก็ไม่เหลือเวลาที่เราจะไปยืนดูในจุดที่ สวยงาม ดังนั้นท่านต้องเผื่อไว้เป็น 3 ส่วน เช่น ถ้าหยุดพัก 30 นาที ก็เดินไป 10 นาที ไปชื่นชมถ่ายรูป 10 นาที แล้วเดินกลับอีก 10 นาที อย่างนี้เป็นต้น
2. การส่งเสียงดัง บางทีการคุยกันธรรมดาในรถเสียงดังหน่อยอาจจะไม่เป็นไป แต่การคุยกันยามดึกๆในห้อง หรือในบางครั้งห้องพักที่ไม่ใช่ผนังตึก คือเป็นเรือนไม้หรือเป็น เรือนแพ เสียงของท่านอาจไปรบกวนห้องข้างเคียงเขานอนไม่หลับ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญ บางทีเป็นเสียงลูกเราซึ่งก็ไปร้องรบกวนคนอื่น
เรื่องนี้ต้องคิดว่าเด็กเล็กๆ ควรเอาไปหรือไม่ การส่งเสียงดังต้องระมัดระวังให้มาก พยายามกระซิบกระซาบ แต่ไม่ใช่เป็นการนินทา คุยกันธรรมดาแต่ให้รู้จักกาละเทศะ ท่านก็จะเป็นคนที่น่ารักมากขึ้นทีเดียว
3. การกินเหล้าเมายา เรื่องนี้ดูเหมือนถูกเทศน์และถูกว่าซ้ำซาก แต่ยาต่างๆ โดยเฉพาะเหล้ามันไม่ได้เห็นผลทันที เวลาเสพทีละนิดทีละหน่อยเราไม่รู้สึก แต่ไปถึงขนาดหนึ่ง แล้วอาจจะกลายเป็นเรื่องเสียหาย เช่น นั่งรถไปจิบเหล้าไปตลอดทาง ประเดี๋ยวก็มึนเมา หรือบางคนนึกว่าทำในสิ่งที่ตัวเองปกติไม่เคยทำ เช่น ไปสูบกัญชาหรือสูบบุหรี่เพื่อจะ ปล่อยตัวปล่อยใจ
เรื่องนี้ต้องดูว่ารบกวนชาวบ้านหรือไม่ บางครั้งไม่สนุกเลยเพราะยาบางอย่างผิดกฎหมาย ก็จะทำให้ถูกจับทั้งรถ หรือทั้งที่พัก ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีปัญหาหาทาง กฎหมาย หรืออย่างน้อยก็ทำให้เสียเวลาเที่ยวไม่สนุกไปอักโขทีเดียว
4. การเล่นการพนัน การเอาไพ่ไปด้วยและเล่นไพ่ที่พอทำเนา และไม่รบกวนผู้อื่นอาจจะพอได้ เพราะเรื่องนี้ห้ามกันไม่ไหว แต่ที่จริงพยายามหลีกเลี่ยงการเล่นการพนันกับคน แปลกหน้าจะดีที่สุดเพราะเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาทและบรรยากาศร้ายๆ หลายอย่างทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ และในที่สุดแล้วอาจจะนำมาสู่การขึ้นโรงพัก หรือการที่มีปัญหา อีกหลายๆ อย่างตามมา
รวมทั้งเรื่องเงินๆ ทองๆ ไพ่มีได้แต่ขอให้เล่นในที่เปิดเผย และอย่าให้เป็นเรื่องที่ติดงอมแงมเล่นกันตลอดเวลา เล่นยังเอาเป็นเอาตาย เขาให้มีเล่น เพื่อแก้เหงา เรื่องนี้ขอให้สร้างความพอดี ถ้าท่านคุมเพื่อนหรือตัวเองไม่ได้อย่าเล่นการพนันจะเป็น การดีที่สุด
5. การชอบเล่าเรื่องสัปดน หรือเรื่องลามกอนาจาร ของบางอย่างคุยกันในหมู่ผู้ชาย ในหมู่เพื่อนฝูงเบาๆ หรือในกลุ่มแคบๆ อาจจะไม่เป็นไร แต่การไปคุยในรถหรือบางทีเอาวี ดิโอลามกไปฉายในรถ นึกว่าทุกคนจะสนุกเหมือนเรา คนอื่นๆ อาจจะไม่สนุกด้วย ซึ่งเห็นอยู่บ่อยๆ ในรถทัวร์ต่างๆ ซึ่งผู้ชายก็เฮกันไป
แต่ผู้หญิงที่ไปด้วยไม่สบายใจ ซึ่งเรื่องนี้ เขาไม่บอก เพราะเขาพยายามรักษามารยาทและบรรยากาศ เรื่องนี้บางทีผู้หญิงก็เป็น แต่ท่านต้องแน่ใจว่าเป็นพวกเดียวกันจริง ที่จริงแล้วมีเรื่องสนุกอีกหลายอย่าง เรื่องตลก โปกฮาลามกอนาจารหลีกเลี่ยงในการเดินทางดีกว่า
6. พวกชอบชวนทะเลาวิวาท พวกนี้โดยปกติก็จะไม่วิวาท แต่มักจะมีสาเหตุอื่น เช่น เล่นการพนันหรือกินเหล้าก็พาลไปถึงการทะเลาะวิวาท ส่วนบางคนอยู่ปกติไม่เป็นไร แต่ไปเที่ยวต่างถิ่นนึกว่าไม่มีใครรู้จักและมีพวกเยอะก็มักจะตั้งตัวไม่เกรงใจใคร และนำ ไปสู่การทะเลาะวิวาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เป็นวัยรุ่นหรือวัยคะนอง แต่เรื่องวิวาทนี้บางทีไม่ขึ้นอยู่กับอายุหรือเพศ เมื่อมีปัญหากันอย่านึกว่าพวกมากลากไป พยายามระงับ เหตุการณ์ หรือเลี่ยงไปห่างๆ ก็จะดีไม่น้อย กลุ่มอื่นมักจะนำไปสู่ชนวนทะเลาวิวาทได้ง่าย เรื่องที่สำคัญคือ ถ้าท่านไม่พกอาวุธทุกชนิดไปด้วยก็จะดีมาก อย่าลืมว่าการที่ชนะ การทะเลาะวิวาทคือ การหลีกเลี่ยงการทะเลาะไปแล้ว และมีการวิวาทกันแล้วจะไม่มีผู้ชนะเลย เนื่องจากต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือขึ้นโรงพัก เป็นต้น
7. การไม่เกรงใจคนอื่นโดยถือวิสาสะ ว่าเขาคงคิดเหมือนเราสนุกเหมือนเรา สุภาพสตรีก็ยังเป็น บางครั้งเรื่องมาก เช่น ขอให้รถหยุดบ่อยๆ เพื่อที่จะขอถ่ายรูปเมื่อวิวสวย หรือขอเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นก็ไม่ควรทำเช่นนั้น นอกสถานที่นัดหมายไม่ควรจะหยุดรถ
เพราะนอกจากอันตราย เสียเวลาแล้ว ยังไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ ที่เขา เดินทางมาด้วย เรื่องนี้ขอให้ท่านเกรงใจคนอื่นด้วย ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวกลุ่มอื่นไม่เกรงใจเราบ้าง ก็จะมีปัญหา กลายเป็นเรื่องที่เที่ยวไม่สนุก ถ้าหลายวันก็จะยิ่งพอกพูนความอึด อัดกันมากยิ่งขึ้น
8. การทำสกปรก ได้แก่ การทิ้งขยะ การไม่ระวังเสียงหรืออะไรที่ออกจากร่างกาย บางคนผายลม หรือเรอ หรืออ้วก ทำให้บรรยากาศในรถทัวร์หรือในห้องแอร์มีกลิ่น หรือ บรรยากาศไม่พึงประสงค์ บางครั้งชอบทิ้งขยะ ไม่หาที่ใส่ที่เป็นที่ปกปิด ซึ่งเรื่องนี้เตรียมไปก่อนได้
ถุงเล็กและถุงขนาดกลางที่เตรียมใส่กระเป๋าไปจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ มากทีเดียว สำหรับที่ไปต่างประเทศบางแห่งอาจจะถูกปรับถ้าเผื่อท่านทิ้งของออกมานอกรถ ซึ่งเรื่องการทำสกปรกจะอ้างว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด หรือเป็นเรื่องสุดวิสัยไม่ได้ ท่านจะต้องคิดล่วงหน้าเสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องเครียดแต่อย่างใด
9. การเอาเปรียบผู้อื่น การเอาเปรียบเพื่อนร่วมทางเราอาจจะไม่ทันคิด หรือไม่นึกว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างนั้น เช่น การแย่งที่พักหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเกินหน้าเกินตา เช่น มีโควต้าเรื่องหมอน เรื่องจานอาหารให้คนละจานหรือคนละหมอนก็ไปจองไว้ให้ตัวเองและเพื่อน จับจองกันอย่างกับผูกขาด บางคนจองที่นั่งสำหรับดูการแสดง ไปกัน 7-8 คน และมาช้ากันหมด มีคนหนึ่งไปจองที่นั่งไว้เป็นแพ เรื่องแบบนี้ดูเป็นธรรมดา แต่เป็นมารยาทที่น่าเกลียดที่สุด ไม่มีใครอยากคบ
การใช้โทรศัพท์มือถือในที่ไม่บังควร การ สูบบุหรี่ การที่ถือตัวเองว่าเป็นเด็กหรือผู้หญิง หรือคนแก่ บางครั้งถ้าเผื่อไม่พร้อมที่จะสู้และไม่ดีกว่าคนอื่นก็ไม่ควรไป ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นผู้หญิงหรือเป็นเด็ก ก็จะเอาสิทธิ์ตามใจ ตัวไปตลอด เช่น สิทธิ์ในการนั่งข้างหน้า สิทธิ์ในการที่จะให้คนอื่นเขารอนานๆ การผูกขาดห้องน้ำ เช่น เวลาค้างห้องคู่และไม่ได้เป็นคนสนิทกัน บางครั้งเข้าห้องน้ำนานคนที่ เหลือก็จะรอ และลงมารับประทานอาหารหรือขึ้นรถไม่ทัน เรื่องนี้ต้องระวังให้มากๆ ทีเดียว บางครั้งแค่ผูกขาดวิวดีๆ ยืนถ่ายรูป ไม่ให้คนอื่นเขาเข้าไปถ่ายบ้างในเวลาที่รถ จอดสั้นๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าเอาเปรียบเพื่อนร่วมทางแล้ว
10. การมีมารยาทอย่างไทยๆ เรื่องนี้เป็นเกราะคุ้มครองการเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข และเป็นแนวทางประจำกายประจำใจได้ เช่น การทักทาย การเคารพผู้อาวุโส การไหว้ การพูดแสดงความเอื้ออาทร แต่ไม่ถึงกับพูดมากซักถามในเรื่องส่วนตัวของเขา ทักทายกันวันละหนตอนเช้า หรือการให้กำลังใจกันเวลาที่เพื่อนร่วมทางเดือดร้อน เช่น ของหาย หรือไม่สบาย เป็นเรื่องที่ควรแสดงความมีมารยาทอย่างไทย
เพราะเป็นเสน่ห์ประจำกายและเป็นการรักษาบรรยากาศที่ดี การเอื้ออาทรต่อเด็กผู้หญิง ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้สูงอายุ ซึ่งอาจจะบังเอิญติดตามญาติมาด้วยในการเดินทาง ก็ต้องใช้ความเมตตากรุณาไว้ก่อนอย่าเอาไปบ่นในใจ ว่าอ่อนแอเช่นนี้แล้วมาทำไม ถ้าท่านคิดว่าไม่อยากถูก เอาเปรียบเกินไป ท่านควรเอื้ออาทร ด้วยมารยาทแบบไทยๆ ท่านจะฝึกความเป็นผู้นำไม่ใช่แต่เฉพาะเวลาท่องเที่ยว แต่ท่านจะมีเสน่ห์ขึ้นทุกทีและกลายเป็นบุคคลิกส่วนหนึ่ง ที่ติดตัวต่อไปในที่ทำงาน ในครอบครัว ในอนาคต และในสังคมชั้นสูงที่ท่านจะไต่เต้าขึ้นไปอีกด้วย
ข้อมูล
จากบทความของ อ.ไกรฤทธิ์ บุญยเกียรติ นิตยสารทราเวล แอนด์ สปอร์ต ประจำเดือนมกราคม 2546
มารยาทในการเดินทางนั้นไม่ได้ทำให้ท่านเครียดหรือเกร็ง หรือหมด ความสนุกแต่อย่างใด หากแต่ช่วยให้เกิดความสนุกมากขึ้น เพราะเป็นการหลีกเลี่ยงการสร้างบรรยากาศที่ลดความสนุก และเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ได้อีกด้วย ทำ ให้การเดินทางมีสมรรถภาพขึ้น และทุกคนจะได้ความสุขเต็มที่ โดยไม่มาหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ ที่ท่านนึกว่าเล็ก แต่สำหรับคนอื่นเขาถือ ดังนี้เป็นต้น
1. การตรงต่อเวลา เรื่องนี้ต้องขอบอกเลย ท่านจะต้องมีนาฬิกาที่ตั้งง่ายดูชัดทั้งกลางวันกลางคืน และก็พยายามสร้างอุปนิสัยให้เป็นคนตรงต่อเวลา และสามารถกะเวลาถูกเมื่อ จะเดินเที่ยวตอนรถหยุดพัก และท่านอย่าลืมบวกเวลาเที่ยวกลับด้วย เช่น ถ้ารถจอดครึ่งชั่วโมงการเดินทางเที่ยวไปและกลับ 15 นาที ก็ไม่เหลือเวลาที่เราจะไปยืนดูในจุดที่ สวยงาม ดังนั้นท่านต้องเผื่อไว้เป็น 3 ส่วน เช่น ถ้าหยุดพัก 30 นาที ก็เดินไป 10 นาที ไปชื่นชมถ่ายรูป 10 นาที แล้วเดินกลับอีก 10 นาที อย่างนี้เป็นต้น
2. การส่งเสียงดัง บางทีการคุยกันธรรมดาในรถเสียงดังหน่อยอาจจะไม่เป็นไป แต่การคุยกันยามดึกๆในห้อง หรือในบางครั้งห้องพักที่ไม่ใช่ผนังตึก คือเป็นเรือนไม้หรือเป็น เรือนแพ เสียงของท่านอาจไปรบกวนห้องข้างเคียงเขานอนไม่หลับ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญ บางทีเป็นเสียงลูกเราซึ่งก็ไปร้องรบกวนคนอื่น
เรื่องนี้ต้องคิดว่าเด็กเล็กๆ ควรเอาไปหรือไม่ การส่งเสียงดังต้องระมัดระวังให้มาก พยายามกระซิบกระซาบ แต่ไม่ใช่เป็นการนินทา คุยกันธรรมดาแต่ให้รู้จักกาละเทศะ ท่านก็จะเป็นคนที่น่ารักมากขึ้นทีเดียว
3. การกินเหล้าเมายา เรื่องนี้ดูเหมือนถูกเทศน์และถูกว่าซ้ำซาก แต่ยาต่างๆ โดยเฉพาะเหล้ามันไม่ได้เห็นผลทันที เวลาเสพทีละนิดทีละหน่อยเราไม่รู้สึก แต่ไปถึงขนาดหนึ่ง แล้วอาจจะกลายเป็นเรื่องเสียหาย เช่น นั่งรถไปจิบเหล้าไปตลอดทาง ประเดี๋ยวก็มึนเมา หรือบางคนนึกว่าทำในสิ่งที่ตัวเองปกติไม่เคยทำ เช่น ไปสูบกัญชาหรือสูบบุหรี่เพื่อจะ ปล่อยตัวปล่อยใจ
เรื่องนี้ต้องดูว่ารบกวนชาวบ้านหรือไม่ บางครั้งไม่สนุกเลยเพราะยาบางอย่างผิดกฎหมาย ก็จะทำให้ถูกจับทั้งรถ หรือทั้งที่พัก ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีปัญหาหาทาง กฎหมาย หรืออย่างน้อยก็ทำให้เสียเวลาเที่ยวไม่สนุกไปอักโขทีเดียว
4. การเล่นการพนัน การเอาไพ่ไปด้วยและเล่นไพ่ที่พอทำเนา และไม่รบกวนผู้อื่นอาจจะพอได้ เพราะเรื่องนี้ห้ามกันไม่ไหว แต่ที่จริงพยายามหลีกเลี่ยงการเล่นการพนันกับคน แปลกหน้าจะดีที่สุดเพราะเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาทและบรรยากาศร้ายๆ หลายอย่างทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ และในที่สุดแล้วอาจจะนำมาสู่การขึ้นโรงพัก หรือการที่มีปัญหา อีกหลายๆ อย่างตามมา
รวมทั้งเรื่องเงินๆ ทองๆ ไพ่มีได้แต่ขอให้เล่นในที่เปิดเผย และอย่าให้เป็นเรื่องที่ติดงอมแงมเล่นกันตลอดเวลา เล่นยังเอาเป็นเอาตาย เขาให้มีเล่น เพื่อแก้เหงา เรื่องนี้ขอให้สร้างความพอดี ถ้าท่านคุมเพื่อนหรือตัวเองไม่ได้อย่าเล่นการพนันจะเป็น การดีที่สุด
5. การชอบเล่าเรื่องสัปดน หรือเรื่องลามกอนาจาร ของบางอย่างคุยกันในหมู่ผู้ชาย ในหมู่เพื่อนฝูงเบาๆ หรือในกลุ่มแคบๆ อาจจะไม่เป็นไร แต่การไปคุยในรถหรือบางทีเอาวี ดิโอลามกไปฉายในรถ นึกว่าทุกคนจะสนุกเหมือนเรา คนอื่นๆ อาจจะไม่สนุกด้วย ซึ่งเห็นอยู่บ่อยๆ ในรถทัวร์ต่างๆ ซึ่งผู้ชายก็เฮกันไป
แต่ผู้หญิงที่ไปด้วยไม่สบายใจ ซึ่งเรื่องนี้ เขาไม่บอก เพราะเขาพยายามรักษามารยาทและบรรยากาศ เรื่องนี้บางทีผู้หญิงก็เป็น แต่ท่านต้องแน่ใจว่าเป็นพวกเดียวกันจริง ที่จริงแล้วมีเรื่องสนุกอีกหลายอย่าง เรื่องตลก โปกฮาลามกอนาจารหลีกเลี่ยงในการเดินทางดีกว่า
6. พวกชอบชวนทะเลาวิวาท พวกนี้โดยปกติก็จะไม่วิวาท แต่มักจะมีสาเหตุอื่น เช่น เล่นการพนันหรือกินเหล้าก็พาลไปถึงการทะเลาะวิวาท ส่วนบางคนอยู่ปกติไม่เป็นไร แต่ไปเที่ยวต่างถิ่นนึกว่าไม่มีใครรู้จักและมีพวกเยอะก็มักจะตั้งตัวไม่เกรงใจใคร และนำ ไปสู่การทะเลาะวิวาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เป็นวัยรุ่นหรือวัยคะนอง แต่เรื่องวิวาทนี้บางทีไม่ขึ้นอยู่กับอายุหรือเพศ เมื่อมีปัญหากันอย่านึกว่าพวกมากลากไป พยายามระงับ เหตุการณ์ หรือเลี่ยงไปห่างๆ ก็จะดีไม่น้อย กลุ่มอื่นมักจะนำไปสู่ชนวนทะเลาวิวาทได้ง่าย เรื่องที่สำคัญคือ ถ้าท่านไม่พกอาวุธทุกชนิดไปด้วยก็จะดีมาก อย่าลืมว่าการที่ชนะ การทะเลาะวิวาทคือ การหลีกเลี่ยงการทะเลาะไปแล้ว และมีการวิวาทกันแล้วจะไม่มีผู้ชนะเลย เนื่องจากต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือขึ้นโรงพัก เป็นต้น
7. การไม่เกรงใจคนอื่นโดยถือวิสาสะ ว่าเขาคงคิดเหมือนเราสนุกเหมือนเรา สุภาพสตรีก็ยังเป็น บางครั้งเรื่องมาก เช่น ขอให้รถหยุดบ่อยๆ เพื่อที่จะขอถ่ายรูปเมื่อวิวสวย หรือขอเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นก็ไม่ควรทำเช่นนั้น นอกสถานที่นัดหมายไม่ควรจะหยุดรถ
เพราะนอกจากอันตราย เสียเวลาแล้ว ยังไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ ที่เขา เดินทางมาด้วย เรื่องนี้ขอให้ท่านเกรงใจคนอื่นด้วย ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวกลุ่มอื่นไม่เกรงใจเราบ้าง ก็จะมีปัญหา กลายเป็นเรื่องที่เที่ยวไม่สนุก ถ้าหลายวันก็จะยิ่งพอกพูนความอึด อัดกันมากยิ่งขึ้น
8. การทำสกปรก ได้แก่ การทิ้งขยะ การไม่ระวังเสียงหรืออะไรที่ออกจากร่างกาย บางคนผายลม หรือเรอ หรืออ้วก ทำให้บรรยากาศในรถทัวร์หรือในห้องแอร์มีกลิ่น หรือ บรรยากาศไม่พึงประสงค์ บางครั้งชอบทิ้งขยะ ไม่หาที่ใส่ที่เป็นที่ปกปิด ซึ่งเรื่องนี้เตรียมไปก่อนได้
ถุงเล็กและถุงขนาดกลางที่เตรียมใส่กระเป๋าไปจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ มากทีเดียว สำหรับที่ไปต่างประเทศบางแห่งอาจจะถูกปรับถ้าเผื่อท่านทิ้งของออกมานอกรถ ซึ่งเรื่องการทำสกปรกจะอ้างว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด หรือเป็นเรื่องสุดวิสัยไม่ได้ ท่านจะต้องคิดล่วงหน้าเสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องเครียดแต่อย่างใด
9. การเอาเปรียบผู้อื่น การเอาเปรียบเพื่อนร่วมทางเราอาจจะไม่ทันคิด หรือไม่นึกว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างนั้น เช่น การแย่งที่พักหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเกินหน้าเกินตา เช่น มีโควต้าเรื่องหมอน เรื่องจานอาหารให้คนละจานหรือคนละหมอนก็ไปจองไว้ให้ตัวเองและเพื่อน จับจองกันอย่างกับผูกขาด บางคนจองที่นั่งสำหรับดูการแสดง ไปกัน 7-8 คน และมาช้ากันหมด มีคนหนึ่งไปจองที่นั่งไว้เป็นแพ เรื่องแบบนี้ดูเป็นธรรมดา แต่เป็นมารยาทที่น่าเกลียดที่สุด ไม่มีใครอยากคบ
การใช้โทรศัพท์มือถือในที่ไม่บังควร การ สูบบุหรี่ การที่ถือตัวเองว่าเป็นเด็กหรือผู้หญิง หรือคนแก่ บางครั้งถ้าเผื่อไม่พร้อมที่จะสู้และไม่ดีกว่าคนอื่นก็ไม่ควรไป ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นผู้หญิงหรือเป็นเด็ก ก็จะเอาสิทธิ์ตามใจ ตัวไปตลอด เช่น สิทธิ์ในการนั่งข้างหน้า สิทธิ์ในการที่จะให้คนอื่นเขารอนานๆ การผูกขาดห้องน้ำ เช่น เวลาค้างห้องคู่และไม่ได้เป็นคนสนิทกัน บางครั้งเข้าห้องน้ำนานคนที่ เหลือก็จะรอ และลงมารับประทานอาหารหรือขึ้นรถไม่ทัน เรื่องนี้ต้องระวังให้มากๆ ทีเดียว บางครั้งแค่ผูกขาดวิวดีๆ ยืนถ่ายรูป ไม่ให้คนอื่นเขาเข้าไปถ่ายบ้างในเวลาที่รถ จอดสั้นๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าเอาเปรียบเพื่อนร่วมทางแล้ว
10. การมีมารยาทอย่างไทยๆ เรื่องนี้เป็นเกราะคุ้มครองการเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุข และเป็นแนวทางประจำกายประจำใจได้ เช่น การทักทาย การเคารพผู้อาวุโส การไหว้ การพูดแสดงความเอื้ออาทร แต่ไม่ถึงกับพูดมากซักถามในเรื่องส่วนตัวของเขา ทักทายกันวันละหนตอนเช้า หรือการให้กำลังใจกันเวลาที่เพื่อนร่วมทางเดือดร้อน เช่น ของหาย หรือไม่สบาย เป็นเรื่องที่ควรแสดงความมีมารยาทอย่างไทย
เพราะเป็นเสน่ห์ประจำกายและเป็นการรักษาบรรยากาศที่ดี การเอื้ออาทรต่อเด็กผู้หญิง ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้สูงอายุ ซึ่งอาจจะบังเอิญติดตามญาติมาด้วยในการเดินทาง ก็ต้องใช้ความเมตตากรุณาไว้ก่อนอย่าเอาไปบ่นในใจ ว่าอ่อนแอเช่นนี้แล้วมาทำไม ถ้าท่านคิดว่าไม่อยากถูก เอาเปรียบเกินไป ท่านควรเอื้ออาทร ด้วยมารยาทแบบไทยๆ ท่านจะฝึกความเป็นผู้นำไม่ใช่แต่เฉพาะเวลาท่องเที่ยว แต่ท่านจะมีเสน่ห์ขึ้นทุกทีและกลายเป็นบุคคลิกส่วนหนึ่ง ที่ติดตัวต่อไปในที่ทำงาน ในครอบครัว ในอนาคต และในสังคมชั้นสูงที่ท่านจะไต่เต้าขึ้นไปอีกด้วย
ข้อมูล
จากบทความของ อ.ไกรฤทธิ์ บุญยเกียรติ นิตยสารทราเวล แอนด์ สปอร์ต ประจำเดือนมกราคม 2546